เมื่อ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ นำพา ‘จินตนาการ’ ไปสู่ชิ้นงานศิลป์เหมือนจริง

ในปัจจุบันนี้ ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีความสามารถที่จะสร้างสรรค์ผลงานงานศิลป์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย

ออกแบบ แต่เทคโนโลยีนี้ก็ยังต้องการศิลปินเพื่อผลิตชิ้นงานอยู่ดี อย่างไรก็ดี การพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ล่าสุดกำลังเป็นที่สนใจของคนในแวดวงศิลปะมากขึ้น ด้วยความสามารถในการผลิตผลงานศิลป์เพียงใช้คำสั่งที่พิมพ์ผ่านตัวอักษรเท่านั้น บริษัทเทคโนโลยี Open AI ที่ตั้งอยู่ในนครซาน ฟรานซิสโก ได้พัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า ดอล-อีทู (DALL-E 2) ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์รุ่นล่าสุดที่สามารถรังสรรค์ภาพจากการดึงรูปในฐานข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ซ้ำ โปรแกรม AI จะผลิตผลงานศิลปะอย่างไร้ข้อจำกัด เพียงแค่ผู้ใช้งานพิมพ์สิ่งที่ต้องการลงไป อย่างเช่น สร้างรูป “นักบินอวกาศที่กำลังขี่ม้าอยู่บนดวงจันทร์” หรือสร้างรูป “สุนัขสวมหมวกเบเร่ต์” แล้วโปรแกรมนี้ก็จะผลิตรูปให้ตรงกับข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไป การทำงานของ ดอล-อีทู คือการฝึกให้โครงข่ายของปัญญาประดิษฐ์จับคู่คำสั่งอธิบายให้ตรงกับรูปที่มีจำนวนหลายร้อยล้านภาพในระบบ และสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานรูปภาพแทบจะทันที แม้จะเป็นคำสั่งที่ดูเหมือนมาจากจินตนาการที่ไร้กฎเกณฑ์ อย่างเช่น “แทนตำแหน่งของสาวใส่ต่างหูมุก ในภาพของศิลปินชื่อดัง โยฮันเนส เฟอร์เมียร์ ให้เป็นตัวนากทะเล” โปรแกรมนี้ก็สามารถสร้างรูปภาพออกมา ได้อย่างน่าประหลาดใจ อีลาน ไบรเนส วัย 19 ปี เป็นผู้หนึ่งที่ถูกจัดให้อยู่กลุ่มผู้ใช้งานโปรแกรม ดอล-อีทู ซึ่งมีอยู่เพียง 1 ล้านคนเท่านั้น ไบรเนส ให้ความเห็นว่า “โดยส่วนตัว ไม่คิดว่าจะมีใครมองเทคโนโลยีนี้มาแทนที่ศิลปินจริง ๆ หรือนำมาใช้แทนผลงานกราฟิกดีไซน์ แต่โปรแกรมนี้จะเป็นเครื่องมือสำหรับศิลปินในการสร้างสรรค์และเชื่อมต่อสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเขา ให้ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานได้” วีโอเอ ยังได้พูดคุยกับ ฮานี ฟารีด อาจารย์ด้านนิติวิทยาคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย (University of California) วิทยาเขตเบิร์กลีย์ ที่มีโอกาสได้ทดลองการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ดอล-อีทู ด้วย ฟารีด กล่าวว่า ความประทับใจแรกของตนคือ “รู้สึกทึ่งอย่างมาก” แต่ก็ยอมรับว่า โปรแกรมนี้ไม่ได้ผลิตผลงานออกมาได้ถูกต้องตามคาดทุกครั้ง ฟารีด ยกตัวอย่างของการพิมพ์คำสั่ง “สร้างรูปสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์จำนวน 3 ชิ้น วางอยู่บนทางเท้าที่มีแสงแดดส่องลงมา”

เมื่อ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ นำพา ‘จินตนาการ’ ไปสู่ชิ้นงานศิลป์เหมือนจริง

ก่อนจะพบว่า ภาพที่ถูกสร้างขึ้นจาก ดอล-อีทู มีตำแหน่งของแสงและเงาที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักความเป็นจริง อาจารย์ด้านนิติวิทยาคอมพิวเตอร์รายนี้ยังแสดงทัศนะว่า จุดต่าง ๆ

ที่ไม่สอดคล้องกันในภาพ เป็นรายละเอียดเบาะแสที่ช่วยให้นักวิจัยซึ่งรวมถึงตัวเขาด้วยสามารถวิเคราะห์ว่า ข่าวออกแบบ ภาพนั้นเป็นของจริงหรือเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เขาเชื่อว่า เมื่อระบบมีความหน้ามากขึ้น การแยกแยะความแตกต่างนั้นก็จะยากขึ้นไปโดยปริยาย นอกจากนั้น ปริมาณของผลงานที่สร้างโดยโปรแกรม AI แบบนี้ที่จะมีออกมาในอนาคต ก็เป็นอีกประเด็นความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญด้วย อาจารย์ด้านนิติวิทยาคอมพิวเตอร์รายนี้ยังแสดงทัศนะว่า จุดต่าง ๆ ที่ไม่สอดคล้องกันในภาพ เป็นรายละเอียดเบาะแสที่ช่วยให้นักวิจัยซึ่งรวมถึงตัวเขาด้วยสามารถวิเคราะห์ว่า ภาพนั้นเป็นของจริงหรือเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เขาเชื่อว่า เมื่อระบบมีความหน้ามากขึ้น การแยกแยะความแตกต่างนั้นก็จะยากขึ้นไปโดยปริยาย นอกจากนั้น ปริมาณของผลงานที่สร้างโดยโปรแกรม AI แบบนี้ที่จะมีออกมาในอนาคต ก็เป็นอีกประเด็นความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญด้วย ฟารีดกล่าวว่า “เราจะไม่ได้ตรวจสอบเพียงแค่ 2-3 ภาพต่อสัปดาห์ หรือ ต่อเดือน หรือต่อปี แต่จะมีภาพเป็นพัน ๆ ให้ตรวจสอบทุกชั่วโมง จากความสามารถของโปรแกรมที่จะสังเคราะห์ เพื่อนำออกเผยแพร่ และบิดเบือนโลกของความเป็นจริงได้” อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูในแง่ของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีแล้ว โปรแกรมอย่าง ดอล-อีทู ถือว่า เป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งในการผลักดันและฝ่ายขีดจำกัดของการสร้างงานศิลป์ที่สะท้อนภาพชีวิตของคนเราในเวลานี้

BGRIM ขาดทุน 529 ล้านบาทผลต้นทุนพุ่งอัตราแลกเปลี่ยน ประกาศซื้อโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นเพิ่ม

บี.กริม เพาเวอร์ แจ้งงบไตรมาส 3 ขาดทุนอีก 529 ล้านบาท ต้นทุนก๊าซพุ่ง แถมอัตราแลกเปลี่ยนกระทบ มองอนาคตผลงานจะฟื้นตัว

เศรษฐศาสตร์ พร้อมกำเงิน 1.4 พันล้านเยน ซื้อโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2565 โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 18,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 56.9% และในช่วง 9 เดือนแรก บริษัท มีรายได้ 47,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1% ผลจากปริมาณไฟฟ้าในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 3,700 และ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 10,772 กิกะวัตต์-ชั่วโมง โดยเป็นผลจาก 1) ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ กฟผ. เพิ่ม ขึ้นจากกลไกการส่งผ่านค่าเชื้อเพลิงตามราคาก๊าซธรรมชาติ และ ค่า Ft เพิ่มขึ้น 2) การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ของปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้า IU ในประเทศจากลูกค้า รายใหม่จำนวน 33.4 เมกะวัตต์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และ3) การฟื้น ตัวอย่างแข็งแกร่งของปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้า IU ใน ประเทศเวียดนาม จากการล็อกดาวน์ประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของ 2564 และ 4) การเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว และ 5) การเริ่ม ดำเนินการของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย เมื่อเดือน ส.ค. 2564 กำไรสุทธิในส่วนที่มาจากการดำเนินงาน-ส่วนที่เป็นของบริษัท ใหญ่อยู่ที่ 25 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 95.6 % โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติ 107.9 % ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มลูกค้า IU ในประเทศ ซึ่งคิดเป็น 18.0% ของรายได้รวม เนื่องด้วยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น จริงจำนวน 830 ล้านบาท สำหรับไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา (รายการที่ไม่ใช่เงินสดจากสถานะสุทธิของหนี้และธุรกรรมอื่นที่เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ), กำไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน 17 ล้านบาท และ ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดขาดทุนสุทธิ-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ในไตรมาสที่ 3 นี้ ที่ 529 ล้านบาท

BGRIM ขาดทุน 529 ล้านบาทผลต้นทุนพุ่งอัตราแลกเปลี่ยน ประกาศซื้อโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นเพิ่ม

ทั้งนี้ เราคาดว่าจะมีหลายปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จาก 1) การปรับขึ้นของค่า Ft ทุกๆ 4 เดือน 2)

การเข้าซื้อกิจการอื่นๆ ในพอร์ตการลงทุน 3) การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง 4) การขยายฐาน ลูกค้า IU อย่างต่อเนื่อง และ 5) การควบคุมค่าใช้จ่าย ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า B.Grimm Power Korea Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บี.กริม ข่าวเศรษฐศาสตร์ เพาเวอร์ถือหุ้นในสัดส่วน100% ได้เข้าลงทุนใน Lohas ECE Spain Gifu Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กําลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ที่ ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายใต้เงินลงทุนมูลค่าประมาณ 1,400,000,000 เยนญี่ปุ่น หรือเทียบเท่าประมาณ 358.23 ล้านบาท ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการลงทุน ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันและขนาดของรายการไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่ ต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศ ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547

เมื่อ “รูปเด็ก” กลายเป็นคอนเทนต์ออนไลน์ ภัยร้ายของเด็กยุคใหม่

“รูปเด็ก” น่ารักๆ จากคนใกล้ตัวไปจนถึง “ลูกคนดัง” ที่พ่อแม่ยุคนี้นิยมโพสต์ ลงสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ

เด็ก แม้หลายคนมองว่าเป็นการแชร์ความน่ารักของเด็กๆ และบันทึกความทรงจำ แต่ความจริงอาจส่งผลร้ายต่อตัวเด็กมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือ ติ๊กต็อก ปัจจุบันเรามักจะได้เห็นภาพหรือคลิปไปจนถึงการไลฟ์สดของเด็กน้อยน่ารักในหลากหลายอิริยาบถ ทั้งลูกหลานของคนใกล้ตัว หรือบรรดา “ลูกคนดัง” ทั้งลูกดารา ลูกศิลปินต่างๆ ในสังคม ซึ่งบางคนถึงกับสร้างแอคเคาท์สื่อสังคมโซเชียลให้ลูกโดยเฉพาะเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้เหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม เนื่องจากเราเห็นจนชินตา เผลอๆ เราเองก็เคยลงรูปลูกหลานในโซเชียลเหมือนกัน แม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะมีข้อดี เช่น ได้แบ่งปันความน่ารักให้ญาติ และเพื่อนๆ มีโฆษณาติดต่อให้เด็กรีวิวสินค้าผ่านโซเชียล ได้เป็นศิลปินเด็ก เป็นต้น แต่ข้อเสียของการให้เด็กมีตัวตนในโลกออนไลน์ตั้งแต่อายุยังน้อย (บางคนตั้งแต่เกิดได้ไม่กี่นาที!) ก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองยุคนี้ต้องรู้! และจำเป็นจะต้องศึกษาก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีโซเชียลมีเดียให้กับลูกหลานที่ยังไม่รู้ความ รวมไปถึงการไลฟ์สดหรือการลงภาพลูกโดยที่ลูกไม่สามารถปฏิเสธได้ คำว่า “Sharenting” อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยกันสักเท่าไรนัก โดยคำนี้มาจากคำว่า Share รวมกับคำว่า Parenting หมายถึง “การเลี้ยงลูกผ่านโซเชียลมีเดีย” ใช้เรียกพฤติกรรมของผู้ปกครองที่มักโพสต์รูป หรือวิดีโอเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ลงบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ โดยในต่างประเทศมีการวิจัย และคำเตือนจากนักจิตวิทยาเด็ก ให้งดทำการโพสต์ดังกล่าว มาแล้วหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ เพราะจะทำให้เด็กที่เติบโตมาโดยไม่มีความเป็นส่วนตัว เด็กจะขาดความเข้าใจในเรื่องความยินยอม และสิทธิในข้อมูลของตนเอง นอกจากนี้ยังส่งผลถึงการขาดความพึงพอใจในชีวิต เพราะถูกตัดสินความสำเร็จ หรือความผิดต่างๆ ผ่านการโพสต์ และการบอกเล่าของพ่อแม่ ในโซเชียลมีเดียโดยบุคคลภายนอกครอบครัว

เมื่อ “รูปเด็ก” กลายเป็นคอนเทนต์ออนไลน์ ภัยร้ายของเด็กยุคใหม่

ในทางตรงกันข้าม เด็กที่โตมาโดยที่พ่อแม่ไม่เปิดเผยภาพ หรือเรื่องราวส่วนตัวบนโลกออนไลน์ พวกเขาจะมีความเข้าใจสิทธิของตนเอง

เข้าใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี และมีความพึงพอใจในชีวิตมากกว่า เพราะได้เติบโต ข่าวเด็ก และสร้างอัตลักษณ์ตัวตน และได้ค้นหาเพศสภาพของตัวเองในแบบที่ควรเป็น โดยไม่ถูกยึดโยงกับความเห็นหรือมุมมองจากคนนอกที่มองเข้ามา โพสต์รูปลูก กดเช็กอินโรงเรียน ระวัง! พวกใคร่เด็กตามรอย อีกทั้งประเด็นสำคัญ และส่งผลเสียต่อเด็กโดยตรงก็คือ การโพสต์รูปเด็กลงสื่อออนไลน์อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เด็กได้เจอกับกลุ่มคน “ใคร่เด็ก (Pedophile)” และอาจนำไปสู่อันตรายอย่างที่พ่อแม่อาจคาดไม่ถึง เช่น มีคนร้ายไปดักรอเด็กที่โรงเรียน เพราะรู้เวลาเข้าเรียน และเลิกเรียน รวมถึงบุคคลอันตรายเหล่านี้สามารถรับรู้ที่ตั้งของโรงเรียนได้ง่ายๆ จากการที่ผู้ปกครองโพสต์ภาพพร้อมเช็กอินที่ตั้งโรงเรียนลงสื่อโซเชียล นั่นเอง จึงเป็นที่มาของการ “ลักพาตัวเด็ก” ตามที่เราเห็นได้บ่อยครั้งในข่าวรายวัน ปัจจุบันนี้การเข้าถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องง่ายที่คนส่วนใหญ่ทำได้ ดังนั้นพ่อแม่ยุคใหม่บางส่วนก็อยากจะลงรูปหรือวิดีโอน่ารักๆ ของลูกเพื่อเก็บไว้ดูภายหลัง รวมถึงแบ่งปันให้เพื่อน และญาติๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยได้เห็นความน่ารักนี้ด้วย แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ตามที่อธิบายไปข้างต้น ดังนั้น เราอาจจะลดเวลาเลี้ยงลูกในโซเชียลมาอยู่กับความเป็นจริงให้มากขึ้น เพื่อผลดีต่อตัวเด็กเอง

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : แนะผู้ปกครองควรให้บุตรหลาน ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

PlayStation จัดหนักกับกิจกรรม LINE Campaign เกม God of War Ragnarök พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่

และแล้ววันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ก็จะสิ้นสุดการรอคอยของเพื่อน ๆ ที่กำลังรอคอยเกม God of War Ragnarök แล้วนะครับ

PlayStation จัดหนักกับกิจกรรม LINE Campaign เกม God of War Ragnarök พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่

เกมส์ออนไลน์ ซึ่งภาคนี้เพื่อน ๆ ก็จะได้ร่วมเป็นสักขีพยานกับบทสรุปเรื่องราวของสองพ่อลูกระหว่างเครโทสและอเทรอัสในตำนานนอร์สด้วยเช่นกัน อนึ่ง นอกเหนือไปจากความเป็นภาคต่อที่นำเสนอเรื่องราว 3 ปีให้หลังจากภาคก่อนที่วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2018 แล้ว ตัวเกมยังพัฒนาด้านกราฟิก งานดีไซน์ ตลอดจนเกมเพลย์และระบบต่าง ๆ ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สมกับเป็นเกมที่ผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลกต่างให้ความหวังกันครับ ทั้งนี้ ในวาระฉลองการวางจำหน่ายของเกม God of War Ragnarök ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ทาง PlayStation ก็ได้มีกิจกรรม LINE Campaign ให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมสนุกกัน แถมยังได้ลุ้นรางวัลเจ๋ง ๆ มากมาย ซึ่งในจำนวนนั้นก็คือชุดสะสม God of War Ragnarök: Jotnar Edition และ Collector’s Edition นั่นเอง สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมมีเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1. เปิดแอปพลิเคชั่น LINE แล้วเพิ่ม PlayStation Thailand เป็นเพื่อนโดยหลังจากทำการเพิ่มเพื่อนกับทาง PlayStation Thailand แล้ว ที่หน้าจอสนทนาใน LINE จะปรากฏตามรูปด้านล่าง

2. ค้นหา QR Code ที่ซ่อนอยู่และทำการสแกนโค้ดแต่ละอันเพื่อรับคะแนน ยิ่งตามหาโค้ดเจอได้มาก ก็ยิ่งมีโอกาสชนะรางวัลมากขึ้นด้วย ซึ่งแต่ละโค้ดจะมีให้คะแนนต่างกัน

3. ทุกครั้งที่เพื่อน ๆ สามารถค้นหา QR Code ได้เจอและทำการสแกนสำเร็จ ก็จะได้รับคะแนนมาในลักษณะ ข่าวเกมส์ออนไลน์ คล้ายกับดิจิทัลแสตมป์ประทับบนตาราง 9 ช่องตามรูปด้านล่าง โดยทุก ๆ 3 คะแนนที่ได้มาจะสามารถแลกได้ 1 สิทธิ์ ซึ่งใครที่สแกนมาได้ครบ 9 คะแนน ก็จะได้รับสิทธิ์จับสลากทั้งหมด 3 สิทธิ์ด้วยกัน และถ้าใครแชร์กิจกรรมนี้ไปยังเพื่อน ๆ และมีเพื่อนเข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ก็จะได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก 1 สิทธิ์ครับ (รวมเป็น 4 สิทธิ์) ขณะเดียวกัน ภายในหน้าจอของ LINE PlayStation Thailand จะมีเมนูอีกมากมายคอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์เปิดกล้องบนมือถือเพื่อสแกน QR Code ที่พบเจอ, ดูคะแนนสะสมบนการ์ดของเราเอง หรือแม้แต่รายละเอียดกติกาการร่วมสนุกในกรณีที่มีข้อสงสัยเกิดขึ้นระหว่างดำเนินกิจกรรมครับ (ตามรูปด้านล่าง)

4. ยิ่งไปกว่านั้น หากใครทำการแชร์กิจกรรมนี้ให้เพื่อน ๆ ได้เข้ามาร่วมสนุกด้วยก็จะได้สิทธิ์จับสลากเพิ่ม 1 สิทธิ์ครับ (ซึ่งจะได้สิทธิ์จากการแชร์กิจกรรมให้เพื่อนเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น) โดยบนหน้าจอจะมีแสดงเมนูชวนเพื่อนให้กดตรงด้านล่างของตารางสะสมคะแนนมาให้ด้วย (ตามรูปด้านล่าง)

นอกจากนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่านยังสามารถลุ้นรับรางวัลใหญ่ที่มีทั้งหมด 3 รางวัลได้ เพียงทำตามเงื่อนไขดังนี้ ได้รับคะแนนจากการสแกน QR Code อย่างน้อย 3 คะแนนในช่วงระยะเวลาของกิจกรรม หากมีการแชร์กิจกรรมนี้ไปยังเพื่อนของคุณ และเพื่อนคนดังกล่าวก็เข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ก็จะได้รับโอกาสอีกครั้งในการรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่เช่นกัน ลิสต์ของรางวัล รางวัลที่ 1 (จำนวน 1 รางวัล) เกม God of War Ragnarök ชุด Jotnar Edition รางวัลที่ 2 (จำนวน 1 รางวัล) เกม God of War Ragnarök ชุด Collector’s Edition รางวัลที่ 3 (จำนวน 1 รางวัล) คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense ลาย God of War Ragnarök รางวัลปลอบใจ (จำนวน 60 รางวัล) สินค้าที่ระลึกอย่างเป็นทางการจากเกม God of War Ragnarök

แนะนำข่าวเกมส์ออนไลน์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : เกม PC มาแรงที่สุดที่กำลังจะมาถึงในปี 2022

ค่ายสิงห์ รวม 30 ร้านดังเสิร์ฟความอร่อยใน Singha Food Festival 11-13 พ.ย.

ค่ายสิงห์รวม 30 ร้านอาหารดังเสิร์ฟความอร่อยพร้อมชมการแสดงจากศิลปินชั้นนำฟรี ในงาน Singha Food Festival ตั้งแต่วันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม

 

อาหาร วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 Singha Food จัดเทศกาลแห่งความสุขและความอร่อยแบบเต็มพิกัด “Singha Food Festival” รวบรวมบรรดาร้านอาหารดังระดับพรีเมี่ยมกว่า 30 ร้านมาไว้ที่ใจกลางเมือง ณ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม ให้ประชาชนได้เลือกซื้อเลือกชิมกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainability” ที่ปราศจาก Single-Use Plastic เพลิดเพลินกับอาหารที่หลากหลายไปด้วยกันโดยไม่ทำร้ายโลก Singha Food Festival ร่วมกับ Taste BK คัดสรรร้านอาหารดังกว่า 30 ร้านมาไว้ในงาน ไม่ว่าจะเป็น Croissant Taiyaki, เหลือใจ, Chef Pom, Smoke.BKK, เจ๊แดงสามย่าน, Chim Ramen and diner, โคตรยำ, Teyaki, Buzz Dog Hotdog & Fries, Tokki Izakaya, อองตอง ข้าวซอย, Mickey’s Diner BKK และ Mr.Lim Gimbap เป็นต้น นอกจากร้านอาหารดังที่ยกกันมาแล้ว Singha Food Festival ยังเอาใจคนรุ่นใหม่ เสิร์ฟความสุขให้ผู้ร่วมงานไปอีกขั้นด้วยบรรดาศิลปินคุณภาพที่ร่วมกันมามอบสีสันภายในงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น Scrubb, Burin Boonvisut, The Parkinson, Joey Boy, Tom Isara และ T-Bone พร้อมกับเหล่า ดีเจ.อีกมากมาย สำหรับผู้คนที่สนใจอยากร่วมชิมอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มอีกมากมายในบรรยากาศดี ๆ ไปกับงาน Singha Food Festival สามารถมาเยี่ยมชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 11-13 พฤศจิกายนนี้ ณ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม โดยตารางการขึ้นแสดงของศิลปินมีดังนี้

11 พฤศจิกายน พบกับ Scrubb เวลา 20.00-21.00 น. และ Burin Boonvisut เวลา 21.30-22.30 น.

12 พฤศจิกายน พบกับ The Parkinson เวลา 20.00-21.00 น. และ Joey Boy เวลา 21.30-22.30 น.

13 พฤศจิกายน พบกับ Tom Isara เวลา 20.00-21.00 น. และ T-Bone เวลา 21.30-22.30 น.

ค่ายสิงห์ รวม 30 ร้านดังเสิร์ฟความอร่อยใน Singha Food Festival 11-13 พ.ย.

ภัตตาคารโอชิเน พร้อมเสิร์ฟเมนูรังสรรค์โดยวัตถุดิบส่งตรงจากญี่ปุ่น

ลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่นที่ “ภัตตาคารโอชิเน” ซึ่งรังสรรค์เมนูด้วยวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ข่าวอาหาร วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นโอชิเน นำโดยนาย ปณต กิตติประสาธน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอชิเน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และเชฟหนุ่ม กิตติศักดิ์ ลีล้อม ร่วมแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์วัตถุดิบอาหารนําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น (Made in JAPAN) โดย เจโทร กรุงเทพฯ ซึ่ง นายคุโรดะ จุน ประธานเจโทร กรุงเทพฯ เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “วัตถุดิบแท้ ส่งต่อความรัก ด้วยความอร่อย” ร่วมด้วยนายทานิกุจิ ฮิโรกิ ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเกษตร เจโทร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยแคมเปญดังกล่าวเน้นความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการรับรองจาก องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ให้กับกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมง ประเทศญี่ปุ่น (หน่วยงานรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น) สำหรับเมนูแนะนำของภัตตาคารโอชิเน ได้แก่ “เนื้อฮอกไกโดวากิวสไลด์ย่างใบโฮบะ Hookaido Wagyu Slice Hoba Yaki” ซึ่งความพิเศษของเมนูนี้ คือ การน้ำเนื้อฮอกไกโดวากิวสไลด์บาง ๆ มาวางบนใบโฮบะที่แช่น้ำ 4-6 ชั่วโมง เพื่อที่เวลาย่างจะได้กลิ่นหอม ทำให้เนื้อชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง และไหม้ จากนั้นราดด้วยซอสปลาไหลสูตรพิเศษของโอชิเน และซอสสไปซี่มายองเนส โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน หอมซอย งาขาวคั่ว ย่างบนเตาถ่านฮิดะ ให้เนื้อพอสุก จะได้รสชาติละมุนลิ้นของซอส ผสานกับเนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำแทรกไปด้วยไขมันชั้นดี ของเนื้อฮอกไกโดวากิว เนื้อฮอกไกโดวากิวสไลด์ย่างใบโฮบะ
เสน่ห์ของวัตถุดิบอาหารนําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากความสดใหม่ และความอร่อยแล้ว เรื่องราวที่มาของวัตถุดิบจากจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่นยังเป็นที่น่าสนใจอีกด้วย อย่าง “เนื้อฮอกไกโดวากิวของญี่ปุ่น” เป็นวัวพันธุ์ขนดำที่เลี้ยงในถิ่นกำเนิด อยู่ในที่ที่เหมาะสมที่สุด ทำให้วัวรู้สึกเป็นอิสระ ปราศจากความเครียด เพื่อให้ลูกวัวเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

มีเกมลับแข้ง! “มาโน่” เผย ทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง 2 นัด ก่อนลุย อาเซียนคัพ

มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยถึงการที่ ทีมชาติไทย เลือกอุ่นเครื่องกับ เมียนมา และ ไต้หวัน ในการเตรียมทีมก่อนลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 หรือ AFF Mitsubishi Electrics Cup 2022

มีเกมลับแข้ง! มาโน่เผย ทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง 2 นัด ก่อนลุย อาเซียนคัพ

ข่าวกีฬา “แน่นอนว่าการเตรียมทีมก่อนทัวร์นาเมนต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่เราจะได้เช็คสภาพความพร้อมของนักเตะ รวมถึงมีบททดสอบ ก่อนการแข่งขันจริง””จริงๆ เราเองมองไว้หลายชาติ ก่อนที่จะพิจารณาเลือกเกมอุ่นเครื่องกับ ไต้หวัน และ เมียนมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้มีบททดสอบก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์””ที่ผ่านมา นอกจากการทำการบ้านดูนักเตะในไทยลีก และต่างแดนแล้ว ทีมงานสต๊าฟโค้ชยังได้ติดตามการแข่งขันของคู่แข่งในสายเอด้วย อย่างล่าสุด เราได้ดู บรูไน ที่เจอกับ ติมอร์ เลสเต ทั้งสองเกม เพื่อเตรียมนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างละเอียด เพราะเราต้องเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดไม่ว่าจะพบกับใคร””สิ่งสำคัญเรายังต้องวางแผนเรื่องการเดินทางไปเยือน ในทุกๆ นัด ส่วนเกมแรกแน่นอนว่า บรูไน จะลงเล่นด้วยความกระหาย แต่ ทีมชาติไทย เราต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมา และเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ อย่างแข็งแกร่ง””สองเกมอุ่นเครื่อง เราอาจจะเน้นไปที่การทดลองนักเตะ แต่เราก็จะพยายามทำงานหนักเพื่อแฟนบอล และผมเองก็อยากเห็นแฟนบอลมาให้กำลังใจเต็มสนามเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักเตะของเรา””รวมถึงเกมในศึกชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่มที่เราจะได้เล่นในบ้านสองนัด ในการเจอกับ ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ก็อยากให้ทุกคนมาทำให้สนามเต็มไปด้วยแฟนบอลของเรา เพราะการเล่นด้วยการมีแฟนบอลหนุนหลัง ถือเป็นพลังใจชั้นดีสำหรับนักเตะเสมอ”

“บิ๊กหลวง” นำ ตร.PCT ทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน

“บิ๊กหลวง” นำทัพ ตร.PCT สตม. ตำรวจท่องเที่ยว และ บช.สอท. เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลักลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน จับกุมพนักงานจีนกว่า 50 คน โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

บิ๊กหลวง นำ ตร.PCT ทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน

 UFABET เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 28 ต.ค. 65 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. / รอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมกำลังตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) (PCT) เข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จับกุมกลุ่มกระบวนการเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 50 คนพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพที่มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะการหลอกลวง หรือฉ้อโกงออนไลน์ อันเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ดำเนินการตามสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรร

“โกวาจี” AI ฟัง-แปลงเสียงข้อความใช้คัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้า

จุฬาฯ ออกแบบ “โกวาจี (Gowajee)” AI แปลงเสียงเป็นข้อความ-แปลงข้อความเป็นเสียง มีความแม่นยำเป็นธรรมชาติ เริ่มใช้งานแล้วกับระบบคอลเซ็นเตอร์และการคัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้า จ่อประยุกต์ใช้กับงานอีกหลายรูปแบบ
‘OK, Google’

เทคโนโลยี  ทุกวันนี้เราเริ่มคุ้นชินกับการใช้เสียงออกคำสั่งหรือบอกให้โปรแกรม AI อย่าง Google หรือ Siri ค้นหาหรือทำงานตามที่เราต้องการแทนการสัมผัสแป้นพิมพ์อักษร แต่เคยรู้สึกไหมว่า AI voice เหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจโทนเสียงภาษาไทยที่เราพูดนักหลายครั้งก็แปลงเสียงเป็นข้อความที่ไม่ตรง ทำให้เราต้องปรับการออกเสียงภาษาไทยเพื่อให้เข้ากับ AI ที่พัฒนามาจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งเน้นการใช้งานกับหลายภาษาโดยเฉพาะภาษาสากล เช่น ภาษาอังกฤษจากปัญหาดังกล่าว ดร.เอกพล ช่วงสุวนิช อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและทีม ได้พัฒนา AI สัญชาติไทยแท้ “Gowajee” (อ่านว่า โก-วาจี) ที่เข้าใจภาษาไทยโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์การถอดความภาษาไทยที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น พิสูจน์ผ่านการใช้งานจริงแล้วว่ามีข้อผิดพลาดทางภาษาเพียง 9% เท่านั้นเมื่อเทียบกับ AI ถอดความอื่นๆ ที่มีความผิดพลาดราว 15%“โกวาจี” AI ฟัง-แปลงเสียงข้อความใช้คัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้าAI ภาษาไทยด้วยฐานข้อมูลเสียงของคนไทยจากความตั้งใจสร้าง AI แปลงเสียงและข้อความสัญชาติไทย อาจารย์เอกพลและทีมงานได้เริ่มเก็บฐานข้อมูลเสียงภาษาไทยมาตั้งแต่ปี 2560 จนปัจจุบัน“เราเก็บข้อมูลเสียงภาษาไทยหลายรูปแบบและวิธีการ มีทั้งเปิดเว็บไซต์ให้คนเข้ามาอ่านข้อความเพื่อเก็บฐานข้อมูลเสียง จ้างคนมานั่งสนทนากัน หรือจ้างนักแสดงมาพูดสื่อสารอารมณ์ ทั้งหมดรวมแล้วกว่า 5,000 ชั่วโมง จนมั่นใจว่าเรามีข้อมูลมากเพียงพอในการถอดความภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ” อ.เอกพล กล่าวฐานข้อมูลเสียงภาษาไทยจำนวนมากดังกล่าวช่วยให้ทีม Gowajee พัฒนานวัตกรรม AI ภาษาไทยที่มีความแม่นยำในภาษา และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ 3 ลักษณะสำคัญ ได้แก่1. Automated Speech Recognition (ASR) เป็นการทำงานในลักษณะของการถอดความ คือ เมื่อเราพูดอะไรลงไป โปรแกรมก็จะแปลงสิ่งที่เราพูดให้ออกมาเป็นข้อความ“ยกตัวอย่างการใช้งานในการเรียนรู้ เวลาเราฟังเลคเชอร์ หากเราบันทึกเสียงอาจารย์เอาไว้ โปรแกรมก็จะช่วยถอดความออกมาเป็นตัวหนังสือให้เราอ่านได้เลยโดยไม่ต้องไปถอดความเอง” อ.เอกพล แนะ2. Text-to-Speech (TTS) เป็นการทำงานในลักษณะของการแปลงข้อความให้เป็นเสียงพูด อย่างที่เราคุ้นเคยกับการใช้ Google หรือ Siri ในการช่วยอ่านข้อความ แต่เสียงอ่านที่พัฒนาขึ้นโดยโมเดลของ Gowajee จะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากมีฐานข้อมูลภาษาไทยจำนวนมากกว่านั่นเอง3. Automatic Speaker Verification (ASV) เป็นการยืนยันตัวตนผู้พูดด้วยเสียง ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อยืนยันตัวตนในการติดต่อกับคอลเซ็นเตอร์ หรือนำมาใช้เพื่อบ่งบอกว่าใครพูดเมื่อใด

โกวาจี AI ฟัง-แปลงเสียงข้อความใช้คัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้า

“โกวาจี” AI ฟัง-แปลงเสียงข้อความใช้คัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้าตอบโจทย์ระบบคอลเซ็นเตอร์

นับตั้งแต่ที่เริ่มพัฒนา Gowajee ก็มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งมหาวิทยาลัย ภาครัฐ และเอกชน นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้แล้ว โดยเฉพาะในงานการให้บริการคอลเซ็นเตอร์ ทั้งถอดเสียงเป็นข้อความ และถอดข้อความเป็นเสียง“ที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนมากมีความพึงพอใจในความถูกต้องของ Gowajee ที่ดีกว่าของเดิมที่เคยใช้ และในแง่ราคา ก็จับต้องได้มากกว่า ในส่วนของข้อผิดพลาด เรามั่นใจว่าต่อไป เมื่อระบบมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความผิดพลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันจะลดลงเรื่อยๆ”ค้นความหมายในเสียง Gowajee ช่วยคัดกรองผู้ป่วยซึมเศร้าจากการเก็บข้อมูลเสียงที่สื่ออารมณ์ต่างๆ ทีม Gowajee ได้เข้าไปมีสวนช่วยพัฒนาระบบของแอปพลิเคชัน DMIND ที่ทำหน้าที่ช่วยคัดกรองผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมช่วยเหลือสังคมของจุฬาฯ“DMIND เป็นโจทย์ที่ท้าทายเพราะนอกจากจะต้องถอดความแล้ว ยังต้องใช้โมเดลจำแนกอารมณ์จากเสียงพูดเพื่อนำไปวิเคราะห์หาความหมายของกลุ่มเสี่ยงอีกด้วย บางครั้ง ผู้ป่วยจะพูดไปร้องไห้ไป ซึ่งทำให้ฟังยากขึ้น แต่ Gowajee ก็ทำงานได้ค่อนข้างดี เราอาจไม่จำเป็นต้องถอดความให้ถูกต้องทุกคำ แต่จับคำสำคัญให้ได้เพื่อถอดความสำคัญออกมา”Gowajee ประยุกต์ช่วยงานอะไรได้อีกบ้างowajee และเทคโนโลยี AI ถอดความภาษายังสามารถประยุกต์ใช้ในพื้นที่ชีวิตและการทำงานได้หลากหลาย อาทิ เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ในการจดบันทึกข้อมูลคนไข้ ระหว่างที่ทันตแพทย์กำลังใช้เครื่องมือทำฟันให้คนไข้ ก็พูดบอกสิ่งที่ต้องการบันทึกให้ Gowajee แปลเป็นข้อความช่วยตรวจหาความเสี่ยงของผู้ป่วยที่อาจมีภาวะ stroke เมื่อเริ่มพูดไม่ชัดช่วยเป็น Coach ตั้งคำถามให้ผู้ใช้งานตอบและวิเคราะห์เป้าหมายในการใช้ชีวิตจากการบันทึกการสัมภาษณ์ทางวีดิโอ เป็นส่วนที่ใช้ในการแนะแนวนักศึกษาหรือสำหรับองค์กรที่กำลังรับคนเข้าทำงานช่วยแปลงเสียงและขยายเสียงพูดให้ผู้สูงอายุสามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลายคนอาจคิดถึงการประยุกต์ใช้ Gowajee กับการเรียนและการประชุม ในการแปลงข้อมูลเสียงเป็นข้อความ เป็นต้นข้อมูลปลอดภัย มั่นใจ Gowajee“ความปลอดภัยของข้อมูล” คือจุดเด่นของ Gowajee ที่เหนือกว่า AI ถอดความอื่นๆ อ.เอกพล กล่าวให้ความมั่นใจว่า “โดยปกติแล้ว เวลาเราใช้โปรแกรมถอดความของเจ้าอื่นๆ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้บนคลาวด์ (cloud) หรือทำการประมวลผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการแต่สำหรับ Gowajee ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในฐานข้อมูลของผู้ใช้เอง ซึ่งข้อมูลของผู้ใช้ ข่าวเทคโนโลยี  โดยเฉพาะธนาคารที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูล ก็จะไม่หลุดออกไปภายนอกแน่นอน”“AI ไม่ได้ disrupt เราขนาดนั้น ตัวเราเองต่างหากที่ disrupt ตัวเองมากกว่า สังคมสูงวัย ปัญหาประชากรวัยแรงงานขาดแคลน เหล่านี้ต่างหากกำลังบีบเราให้ต้องสร้างเทคโนโลยีเพื่อทุ่นแรงและทดแทนงานบางอย่างที่อนาคตเราอาจจะหาคนมาทำไม่ได้ ผมไม่ได้คาดหวังว่างานของผมจะช่วยเหลือผู้สูงอายุในปัจจุบัน แต่ผมมองว่าในอนาคต ตัวผมเองจะกลายเป็นผู้สูงอายุ ผมคงจะได้ใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้”

แนะนำข่าวเทคโนโลยี  อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : Adobe เปิดตัว Photoshop Elements 2023 และ Premiere Elements 2023 เพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ

ต้นตอ! โรคอุบัติใหม่ เชื้อร้ายติดจากสัตว์มาสู่คน

การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศโลกกำลังกลายเป็นตัวเร่งก่อโรคอุบัติใหม่ให้เกิดการติดเชื้อแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้างรุนแรง สามารถก้าวกระโดดจากสัตว์มาสู่คนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

สัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์ส ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 2009 และโควิด-19 ต่างสร้างความโกลาหลส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมอย่างหนักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ อันมีปัจจัยจาก “ความชุกชุมของสัตว์พาหะนำโรคบวกกับความสะดวกทางคมนาคม และผู้คนขาดการป้องกัน” ทำให้เปิดช่องโอกาสสัมผัสโรคได้มากขึ้น ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า สำหรับ เชื้อไวรัสจากสัตว์ติดต่อสู่คนได้นี้มาจาก “มนุษย์ทำลายระบบนิเวศธรรมชาติ” รุกล้ำพื้นที่ที่อยู่อาศัยสัตว์ป่าปรับเปลี่ยนให้เป็นชุมชน และแหล่งเพาะปลูกทำมาหากิน คนบางส่วนก็ล่าสัตว์ป่านำมารับประทาน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเจอสัตว์พาหะนำโรคได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์ RNA หรือตระกูลไวรัสโคโรนาที่มักคุกรุ่นในกลไกสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ โดยปกติเป็น “ไวรัสก่อโรคในลำไส้สิ่งมีชีวิต” มักทำลายระบบภูมิคุ้มกันเคลื่อนย้ายไปส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ปอด หลอดลมทำให้สามารถถ่ายเทไวรัสไปสู่สัตว์ชนิดอื่น เช่น สัตว์ฟันแทะ ค้างคาว ที่มักติดเชื้อไม่มีอาการป่วย แล้วยิ่งเมื่อมนุษย์รุกล้ำพื้นที่ป่า “ทำการเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์” อันเป็นลักษณะยิ่งใกล้ชิดสัตว์ป่าพาหะนำโรคมากขึ้นจนทำให้สามารถถ่ายเทเชื้อโรคมาสู่ “สัตว์บกเศรษฐกิจ” ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย แพะ แกะ รวมถึงหมู สุนัข เป็ด ไก่

ต้นตอ! โรคอุบัติใหม่ เชื้อร้ายติดจากสัตว์มาสู่คน

ก่อนคืบคลานเข้ามาสู่ “คนติดต่อสู่คน” สุดท้ายกลายเป็นการก่อโรคระบาดรุนแรงขึ้นก็ได้

ยิ่งกว่านั้น “ไวรัสยังจะพัฒนาแพร่เชื้อผ่านทางอากาศหายใจ (Airborne)” โดยไม่จำเป็นต้องรับเชื้อผ่านละอองฝอย ไอจามรดกัน หรือมือสัมผัสพื้นผิวปนเปื้อนเชื้อนำสู่ร่างกายอีกต่อไป เรื่องนี้คือเป้าหมายสำคัญอันเป็นชัยชนะของไวรัสส่งสัญญาณเตือนถึง “ความเก่งกาจ” ที่มนุษย์ต้องเตรียมพร้อมรับมือโรคอุบัติใหม่กันได้แล้วและมีคำถามว่า…“สัตว์ป่าติดเชื้อมาจากแหล่งใด?” เรื่องนี้ตอบได้ยากแต่ตามหลักที่ศึกษาวิจัยเชิงรุกรู้กันมานานกว่า 20 ปี “ไวรัสมักตั้งตัวในสัตว์เกิดการเพาะบ่มและวิวัฒนาการของเชื้อโรคจากสัตว์” แล้วที่ผ่านมาปรากฏชัดว่า ข่าวสัตว์เลี้ยง “มีวิวัฒนาการควบคู่ได้ดีกับสัตว์บางชนิด” โดยเฉพาะสัตว์ป่าก่อนกระโดดข้ามไปสัตว์ชนิดอื่น

โรคลมชักในเด็กกับการรักษาด้วย ‘กัญชา’

อธิบดีกรมการแพทย์เผยผลสำรวจผู้ป่วยโรคลมชักรักษายาก ทดลองใช้สารสกัดกัญชาซีบีดีสูงเป็นระยะเวลา 12 เดือน จำนวน 14 ราย พบว่า มีอาการชักรุนแรงลดลง 7 ราย สอดคล้องกับผลการวิจัยในต่างประเทศ สารสกัดกัญชาซีบีดี สามารถรักษาผู้ป่วยโรคลมชักชนิดรุนแรงในเด็กให้ลดลงได้ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงมากเช่นกัน

สุขภาพ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การใช้สารสกัดกัญชาในการรักษาโรคลมชักมีมานาน ในบางประเทศอนุญาตให้ใช้เป็นยาได้ แต่ในหลายประเทศยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การศึกษาระยะแรกไม่มีการควบคุมขนาดของยาที่ชัดเจนพบว่าได้ผลในผู้ป่วยโรคลมชักบางราย ในปี พ.ศ. 2560 ในต่างประเทศได้ทำการศึกษาวิจัยแบบสุ่มเปรียบเทียบสารสกัดกัญชาซีบีดีกับยาหลอกพบว่าสารสกัดกัญชาซีบีดีสามารถรักษาผู้ป่วยโรคลมชักที่รุนแรงรักษายากในเด็กโดยลดชักชนิดรุนแรง แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงมากเช่นกันส่วนประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 มีการประกาศใช้กฎหมายให้สามารถนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ภายใต้รูปแบบพิเศษในการเข้าถึงยา โดยสถาบันประสาทวิทยาและสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ได้ทำการศึกษาวิจัยติดตามผู้ป่วยโรคลมชักรักษายากในเด็กที่ได้สารสกัดกัญชาซีบีดีสูง ร่วมกับยากันชักหลายชนิด เป็นระยะเวลา 12 เดือน จำนวน 14 ราย พบว่าจำนวนผู้ป่วยมีอาการชักรุนแรงลดลง 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 50 พบผลข้างเคียงทุกราย ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและมักเกิดในช่วง 3 เดือนแรก โดยเฉพาะเมื่อได้รับสารสกัดกัญชาในขนาดสูง ซึ่งพบผู้ป่วย 4 ราย ที่ต้องหยุดยาเนื่องจากชักมากขึ้น จึงสรุปได้ว่าสารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูงมีประสิทธิผลในการรักษาโรคลมชักรักษายาก ในเด็กไทยพบผลข้างเคียงส่วนใหญ่ไม่รุนแรง โดยเริ่มยาขนาดต่ำและเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่รุนแรงในช่วง 3 เดือนแรก

โรคลมชักในเด็กกับการรักษาด้วย กัญชา

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขเห็นความสำคัญของการใช้สารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูงในการรักษาโรคลมชักรักษายากในเด็ก

จากผลการศึกษาครั้งแรกในประเทศไทย โดย 2 สถาบันของกรมการแพทย์ พบว่ามีประสิทธิผล ลดชักได้ ทำให้เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวที่ต้องดูแลอาการชักที่รุนแรงตลอดเวลา และเป็นการสนับสนุนการใช้ยาที่พัฒนาจากสมุนไพรที่ผลิตในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศไทยในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ กรมการแพทย์จึงได้เสนอสารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูง ในการรักษาโรคลมชักรักษายากในเด็ก เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพร และได้รับอนุมัติบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร บัญชี 3 สามารถเบิกจ่ายในสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยกลุ่มนี้ และดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์เฉพาะทางในประเทศไทยผู้ป่วยโรคลมชักรักษายากในเด็กอยู่ในความดูแลของกุมารแพทย์ประสาทวิทยา กรมการแพทย์ จึงได้ร่วมกับสมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ข่าวสุขภาพ จัดทำโครงการติดตามผลการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักรักษายาก ในเด็กที่ใช้สารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูงทั่วประเทศ เพื่อให้การใช้สารสกัดกัญชาชนิดซีบีดีสูงที่ผลิตในประเทศมีความปลอดภัย มีประสิทธิผลเชื่อถือได้ และนำไปสู่การเสนอเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร บัญชี 1 ในปี พ.ศ. 2567 ต่อไป

แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : “อนุทิน”ร่วมพิธีแสดงสัตยาบันเข้าร่วม IVI ส่งผู้เชี่ยวชาญเรียนรู้วัคซีน