
เห็นดีเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และก็กระบวนการปรับปรุงเจ้าหน้าที่รัฐคุณครูแล้วก็พนักงานด้านการศึกษาก่อนแต่งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะช่ำชองพิเศษ
ข่าว สืบไปจากพ.ร.บ.กฎระเบียบเจ้าหน้าที่รัฐคุณครูแล้วก็เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา พุทธศักราช2547 มาตรา 80 ได้กำหนดให้มีการปรับปรุงเจ้าหน้าที่รัฐคุณครูแล้วก็พนักงานด้านการศึกษาก่อนตั้งให้ครอบครองตำแหน่งบางตำแหน่งรวมทั้งบางวิทยฐานะ ถัดมาได้ระบุมาตรฐานตำแหน่งแล้วก็วิทยฐานะฯ ตาม ว 3/2564 โดยระบุคุณสมบัติเฉพาะสำหรับวิทยฐานะชำนาญพิเศษเพียงแค่วิทยฐานะเดียวที่จำต้องผ่านการประมาณรวมทั้งจำต้องผ่านการพัฒนาก่อนตั้งตามหลักมาตรฐานแล้วก็กระบวนการที่ กรกฎาคมศาสตราจารย์ระบุ ก็เลยได้มีการระบุ (ร่าง) หลักเกณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีปรับปรุงเจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์และก็เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาก่อนแต่งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนิชำนาญพิเศษ ซึ่งสาระสำคัญของ (ร่าง) หลักเกณฑ์ฯ มีดังนี้
คุณลักษณะของผู้เข้ารับการพัฒนา
1.ดำรงวิทยฐานะชำนาญมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี กรณีครอบครองตำแหน่งคุณครู ผู้อำนวยการ โรงเรียน และก็เรียนนิเทศก์
2.ดำรงวิทยฐานะชำนาญมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี กรณีครองตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ผู้อำนวยการ ที่ทำการ กรมการศึกษานอกโรงเรียนจังหวัด/กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนจังหวัด
แบบอย่างการพัฒนา
1.ทำข้อแนะนำในการพัฒนาที่สะท้อนให้มองเห็นถึงการผลิตความเคลื่อนไหว (Create an impact) ในตำแหน่งที่ยังคงอยู่ ตามแบบที่ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ระบุ
2.ปรับปรุงโดยใช้แนวทาง Project-based Development โดยมี Coach ที่มีประสบการณ์หรือความชำนิชำนาญ มีความเหมาะสมรวมทั้งเป็นที่ยอมรับ ปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำ ชี้แนะ รวมทั้งขับการพัฒนาจนกระทั่งบรรลุผลของการพัฒนา ซึ่งผู้เข้ารับการพัฒนาสามารถเสนอชื่อ Coach ตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ได้ ถ้าหาก Coach ไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ สามารถขอแปลง Coach ได้
3.ช่วงเวลาในการพัฒนา ไม่น้อยกว่า 4 เดือน แม้กระนั้นไม่เกิน 6 เดือน ถ้าเกิดยังไม่บรรลุจุดประสงค์ของการพัฒนา สามารถเพิ่มเวลาการพัฒนาได้
4.ให้มีคณะกรรมการประมวลผลการพัฒนา ประเมินจาก 2 รายการ เช่น 1.ประสิทธิภาพของงาน และก็ 2.ประโยช์จากงาน ซึ่งผู้เข้ารับการพัฒนาจะต้องมีผลของการประเมินผ่านกฏเกณฑ์เป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการ ในกรณีที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ สามารถปรับข้อเสนอแนะรวมทั้งเลื่อนเวลาการพัฒนาได้ โดยการวัดไม่ระบุค่าคะแนน เพราะเป็นการประเมินเพื่อการพัฒนา
ผลของการปรับปรุง เอาไปใช้สำหรับในการตั้งได้ด้านใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ผ่านการพัฒนา กรณีแปลงตำแหน่งรวมทั้งผ่านการพัฒนาในตำแหน่งเดิมตามหลักกฏเกณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีการนี้แล้ว สามารถนำผลของการปรับปรุงที่ยังไม่หมดอายุไปใช้ในลัษณะของการตั้งได้ ดังนี้ จะต้องไม่ก่อนวันที่ได้รับการยินยอมให้เลื่อนวิทยฐานะ และไม่ก่อนวันที่ผ่านการพัฒนา นอกจากนั้น ยังอนุมัติการปรับกฏเกณฑ์การวินิจฉัยตามหลักหลักเกณฑ์และก็กรรมวิธีให้เจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์รวมทั้งพนักงานด้านการศึกษา มีวิทยฐานะแล้วก็เลื่อนวิทยฐานะ ตาม ว 9-ว 11/2564 ดังที่
เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ได้ระบุหลักเกณฑ์แล้วก็แนวทางการประเมินตำแหน่งและก็วิทยฐานะเจ้าหน้าที่รัฐคุณครูรวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา ตำแหน่งคุณครู ประธานโรงเรียน
รวมทั้งศึกษาเล่าเรียนนิเทศก์ ตาม ว 9-ว 11 ระบุวันที่ 20 เดือนพฤษภาคม 2564 โดยส่งผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 เดือนตุลาคม 2564 รวมทั้งเปิดระบบการประมาณวิทยฐานะดิจิทัล (Digital Performance Appraisal : DPA) ให้เจ้าหน้าที่รัฐคุณครูรวมทั้งพนักงานด้านการศึกษา ยื่นคำขอผ่านระบบ DPA เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไปนั้น ที่ทำการ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ได้ตรึกตรองแล้วมีความเห็น ดังต่อไปนี้ เมื่อตรึกตรองเทียบกับหลักเกณฑ์การประมาณเพื่อเลื่อนขั้นของเจ้าหน้าที่รัฐจำพวกอื่น ตัวอย่างเช่น ข้าราชการ ชนิดวิชาการ รวมทั้งคณะครูในมหาวิทยาลัย ซึ่งระบุขึ้นหลังจากที่หลักเกณฑ์และก็ขั้นตอนการฯ ว 9-ว 11/2564 ใช้บังคับ พบว่ามาตรฐานการวินิจฉัยตามหลักกฏเกณฑ์และก็กรรมวิธีการฯ ว 9-ว 11/2564 ที่กำหนดให้จะต้องได้คะแนนจากผู้ตัดสินแต่ละคนผ่านกฏเกณฑ์ มีความแตกต่างกับมาตรฐานการวินิจฉัยของข้าราชการ/คณะครูที่กำหนดเกณฑ์ผ่านโดยใช้เสียงส่วนมาก ประกอบกับหลักเกณฑ์รวมทั้งกระบวนการฯ ว 9-ว 11/2564 เป็นการให้ผู้ตัดสินประเมินได้มีการใช้ดุลยพินิจทางด้านวิชาการสำหรับการให้แต้มเรียกตัวชี้วัดแล้วก็กฏเกณฑ์การให้แต้ม ตลอดจนให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผลของการประเมินจากที่ กรกฎาคมศาสตราจารย์ระบุได้เป็นอิสระผ่านระบบการคาดคะเนวิทยฐานะดิจิทัล (DPA) โดยไม่มีการสัมมนาคณะกรรมการ รวมทั้งผู้ตัดสินแต่ละคนจะไม่รู้ผลของการประเมินของผู้ตัดสินผู้อื่น ข่าวการศึกษา ก็เลยมีความน่าจะเป็นที่ผลคะแนนของผู้ตัดสินแต่ละคนจะมีความต่างกันมากมาย สาเหตุจากการที่คณะกรรมการมิได้เปลี่ยนมุมมองรวมทั้งข้อคิดเห็นเชิงวิชาการที่มีต่อผลงานของเจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์รวมทั้งพนักงานด้านการศึกษาที่ขอรับการคาดการณ์ด้วยกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อความเที่ยงธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์และก็พนักงานด้านการศึกษา และก็เพื่อการคาดการณ์มีมาตรฐาน ที่ใกล้เคียงกัน เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ก็เลยได้พินิจอนุมัติ ดังต่อไปนี้
1.เปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์การวินิจฉัยสำหรับในการประเมินเฉพาะด้านที่ 1 และก็ด้านที่ 2 ของตำแหน่งคุณครู ประธานโรงเรียน และก็ศึกษาเล่าเรียนนิเทศก์ ทุกวิทยฐานะ โดยกำหนดให้คนที่ผ่านหลักเกณฑ์การวัดจะต้องได้คะแนนผ่านมาตรฐานจากผู้ตัดสินไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คน
2.เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ได้มีภาควิชาอนุกรรมการเจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา (อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์) เขตพื้นที่การเล่าเรียน แล้วก็ อำเภอเดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่ กรกฎาคมศาสตราจารย์ตั้ง พินิจพิเคราะห์ผลของการประเมินตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมรวมทั้งลงความเห็นไม่อนุมัติ หรืออยู่ระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การเล่าเรียนและก็ส่วนราชการเสนอผลของการประเมินต่อ อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์ เขตพื้นที่การเรียนรู้ และก็ อำเภอเดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่ กรกฎาคมศาสตราจารย์ตั้ง ด้วยเหตุนั้น ก็เลยเห็นสมควรระบุแนวปฏิบัติ สำหรับในการนำผลของการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมมาพิเคราะห์ใหม่ ดังต่อไปนี้
2.1 ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การเรียนหรือส่วนราชการได้แจ้งความเห็นชอบไม่อนุมัติไปแล้ว ให้ทวนผล การประมาณดังกล่าวมาแล้วข้างต้นแล้วแจ้งที่ทำการ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ เฉพาะกรณีส่งผลการคาดการณ์ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ เพื่อปรับแต่งผลของการประเมินในระบบ DPA และก็เสนอ อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์ เขตพื้นที่การศึกษาเล่าเรียน หรือ อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ตั้ง สุดแท้แต่กรณีใคร่ครวญอีกรอบหนึ่ง
แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ศธ.เปิดข้อมูลเทอม 2/65 เด็กออกกลางคันกว่า 5 หมื่นคน ห่วงครูเกษียณพุ่ง เร่งหาทางแก้ไข