คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เงินกู้ยืมกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.5 แสนล้านบาท ทยอยกู้ 8 ครั้ง แล้วก็ใช้คืนด้านใน 7 ปี เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ ปัจจุบันกองทุนฯสถานะติดลบแล้ว 1.25 แสนล้านบาท
นายน้องชาย บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯข้างการบ้านการเมือง ปฏิบัติภารกิจพิธีกรประจำนร กล่าวมาว่า คณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) ลงความเห็นอนุมัติกลยุทธ์กู้ยืม กลยุทธ์ใช้จ่ายเงินกู้ยืม และก็กลยุทธ์ใช้หนี้ใช้สินของการกู้ยืมเงิน โดยที่ทำการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) วงเงิน 150,000 ล้านบาท โดยมอบให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถตรึกตรองปรับกลยุทธ์กู้หนี้ยืมสิน แล้วก็แนวทางใช้จ่ายเงินกู้ยืม รวมทั้งแนวทางจ่ายหนี้ตามสมควรเพื่อสอดคล้องกับเหตุการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ฐานะด้านการเงินของกองทุน หรือสภาพการณ์ตลาดเงินตราในเวลานั้นๆโดยจำเป็นจะต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์บริหารจัดแจงหนี้สินสาธารณะด้วย ถัดมาที่ทำการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้เสนอกลยุทธ์กู้ยืมกลยุทธ์ใช้จ่ายเงินกู้ยืม และก็กลยุทธ์ใช้หนี้ใช้สินของการกู้ยืมเงิน ตามหลักมาตรฐานการกู้ยืมเงินของที่ทำการที่ คณะรัฐมนตรีเห็นด้วยแล้ว เมื่อ16 เดือนสิงหาคม2565 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยจะทยอยกู้ยืม 8 ครั้ง วงเงิน 150,000 ล้านบาท
วิธีการกู้ยืมเงินแล้วก็บอบช้ำระหนี้สินแบ่งเป็น 2 ส่วน ตัวอย่างเช่น
– ส่วนที่ 1 (กู้เงิน ครั้งที่ 1-2) วงเงิน 30,000 ล้านบาท ตามกลยุทธ์บริหารหนี้สินสาธารณะรายปีงบประมาณ 2566 โดยแนวทางใช้จ่ายเงินกู้ยืม จะทยอยใช้จ่ายเงินกู้ยืมตั้งแต่ ธนาคารค 2565 – กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้งจะทยอยใช้หนี้ได้ตั้งแต่ สิงหาคม 2566 และก็ใช้หนี้ครบข้างใน เดือนกุมภาพันธ์ 2568
– ส่วนที่ 2 (กู้ ครั้งที่ 3-8) วงเงิน 120,000 ล้านบาท ทยอยดำเนินงานทั้งปวง 6 ครั้ง (วงเงินที่ 3-8) โดยกลยุทธ์ใช้จ่ายเงินกู้ยืม ทยอยใช้เงินกู้ยืม (ถอนเงินกู้) ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ – เดือนกรกฎาคม 2566 ทยอยจ่ายหนี้ได้ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2568 และก็ใช้หนี้ใช้สินครบด้านใน ตุลาคม 2572
ระหว่างที่การจ่ายหนี้การกู้ยืมเงิน 150,000 ล้านบาท จะมีแหล่งใช้คืนจาก สกนช. จากการประเมินผู้กระทำระแสเงินสด ซึ่งจะสามารถจ่ายและชำระหนี้ได้ครบถ้วนบริบูรณ์ข้างใน 7 ปี โดยจะทยอยใช้หนี้ใช้สินคืนได้ตั้งแต่ สิงหาคม 2566 แล้วก็ใช้หนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ข้างใน ตุลาคม 2572
ดังนี้ในวันที่ 16 เดือนตุลาคม2565 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสถานะติดลบ 125,690 ล้านบาท โดยวิกฤติการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงจากการสู้รบระหว่างรัสเซียและก็ยูเครนที่ยังคงยึดเยื้อ ก่อให้เกิดผลกระทบให้ในตอน เดือนพฤศจิกายน2565 – เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกยังคงอยู่ในชั้นสูงแล้วก็มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อรองราคาผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค รัฐบาลก็เลยมองเห็นถึงสิ่งที่มีความต้องการจำเป็นต้องดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศให้อยู่ในระดับที่พอดี ทำให้กองทุนมีค่าใช้จ่ายมากยิ่งกว่ารายได้ โดยใน วันที่ 20 ตุลาคม 2565 มีค่าใช้จ่ายสุทธิโดยประมาณ 222 ล้านบาทต่อวัน หรือราว 6,882 ล้านบาทต่อเดือน